ชีวประวัติเจ้าแม่กวนอิม(7)
พระนางยอมตายเพื่อคงความเป็นเป็นหญิงพรหมจารีเอาไว้
ครั้นวันรุ่งขึ้น พระนางกูถูกนำเข้าเฝ้าพระราชบิดา พระราชาทอดพระเนตรพระราชธิดาด้วยความสลดพระทัย ครั้นแล้วพระพักตร์ของพระองค์ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในขณะที่พระองค์กวักพระหัตถ์ให้ทหารรักษาพระองค์นำพระนางเข้าไปให้ใกล้ชิด
มีเสียงบรรเลงแห่งดนตรีกังวานมาจากห้องข้างเคียงอย่างจับจิต ภายในห้องนี้มีแขกเหรื่อกำลังนั่งประจำโต๊ะซึ่งมีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมด้วยเครื่องประกอบต่างๆอันหรูหราวางอยู่เรียงราย สำเนียงหัวเราะของแขกทั้งหลายได้กังวานไปสัมผัสกับโสตประสาทของพระนางที่กำลังน้อมพระเศียรอยู่หน้าพระราชบัลลังก์เฉพาะพระพักตร์ของพระราชบิดา พระนางตระหนักแน่ว่าการพระราชทานเลี้ยงครั้งนี้ พระราชบิดาทรงตระเตรียมไว้เพื่อต้อนรับพระนาง เพราะฉะนั้นพระราชบิดาคงทรงตั้งพระราชหฤทัยที่จะพระราชทานโอกาสแก่พระนางอีกครั้งหนึ่ง
พระราชาตรัสภายหลังที่ได้ทรงข่มพระกระแสเสียงของพระองค์ให้คงเป็นปกติแล้วว่า “ลูกเอ๋ย ในการที่ลูกหลบหนีจากพระราชวังในสายัณหกาลแห่งวันอภิเษกสมรสนั้น มิใช่ว่าเจ้าได้สบประมาทเฉพาะพ่อของเจ้าเท่านั้น เจ้ายังได้สบประมาทพระมหากษัตริย์ของจ้าอีกด้วย สำหรับความประพฤติเช่นนี้โทษของเจ้าควรถึงตาย อย่างไรก็ดี เพราะว่าก่อนหน้าเจ้าหนีหายไปจากพระราชวัง เจ้าได้กระทำความดีความชอบอย่างอุกฤษฏ์ไว้ พ่อได้ตกลงปลงใจแล้วที่จะให้โอกาสแก่เจ้า เพื่อประพฤติประพฤติชอบอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเจ้าปฏิเสธพ่อ โทษของเจ้าจะต้องถึงตายเจ้ารู้ไหม จงเชื่อฟังพ่อเถิดลูก แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นสวัสดี ราชสมบัติที่เจ้าปฏิเสธยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าอยู่ พ่อไม่ต้องการอะไรยิ่งไปกว่าที่จะขอให้เจ้ายินยอมอภิเษกกับบุรุษที่พ่อได้เลือกไว้แล้ว”
เจ้าหญิงกวานยินกราบทูลถามพระราชบิดาด้วยความกระวนกระวายพระทัยว่า พระองค์จะทรงผ่อนผันให้ข้าพระบาทตัดสินใจได้เมื่อไร
พระราชาทรงตอบว่า “ในวันนี้ ในชั่วโมงนี้ ในบัดนี้” พลางสีพระพักตร์ก็ถมึงทึง “อะไร เจ้ายังจะอิดเอื้อนอยู่อีกหรือ ระหว่างราชบัลลังก์กับความมรณะหนาลูก พูดออกมาซิลูก จงบอกพ่อว่าเจ้ารักพ่อและจะทำตามที่พ่อสั่ง”
เมื่อได้ฟังรับสั่งเช่นนั้น เจ้าหญิงกวานยินควรที่จะได้อนุโลมตามรับสั่งของพระราชบิดาแล้วมิใช่เพราะว่าพระราชบิดาจะทรงยกราชสมบัติให้แต่เพราะว่าพระนางทรงรักใคร่พระองค์ และเพื่อจะได้ทรงกระทำให้พระองค์ทรงสำราญพระราชหฤทัย แต่ด้วยพระทัยอันแข็งปานเหล็กเพชรของพระนางจึงหาได้เป็นไปดังพระประสงค์ไม่ ไม่มีอำนาจใดในพิภพที่จะสามารถหน่วงเหนี่ยวความคิดซึ่งพระนางทรงคิดเห็นว่าเป็นกิจส่วนพระองค์ของพระนางไว้ได้
พระนางกราบทูลด้วยพระอาการโศกสลด ทั้งพระกระแสเสียงก็อ่อนโยนเป็นอย่างยิ่งว่า “โอ้พระบิดาที่รัก ขอได้โปรดเชื่อลูกเถิด ถ้าลูกจะอนุโลมตามพระราชประสงค์ของพระองค์ได้โดยอิสระ ลูกจะมีความปรีดาปราโมทย์ไม่น้อย ที่ได้นำความเกษมสำราญพระราชหฤทัยมาสู่สมเด็จพระบิดา แต่มีเทวโองการมาจากสวรรค์ ดำรัสสั่งให้ลูกครองตัวเป็นพรหมจารีให้มั่นคงอยู่ ฉะนั้นลูกจึงได้พลีชีพเพื่อแผ่ความเมตตากรุณาแก่สัตวโลกผู้ยากแค้นทั่วไปเมื่อเทพดามีเทวโองการเช่นนี้ แม้แต่เจ้าหญิงก็จะปฏิบัติได้สถานใด นอกจากจะเชื่อฟังฤทธิ์อำนาจซึ่งคุ้มครองโลกนั้น”
พระราชาเฒ่าไม่ทรงพอพระราชหฤทัยในคำกราบทูลของพระราชธิดาเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงพระพิโรธจนพระกายเขียว เพราะพระโลหิตร้อนได้วิ่งพล่านขึ้นสู่พระเศียร “ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ขัดขืนคำสั่งของข้าน่ะซิ นำมันไปทหาร แล้วจงประหารชีวิตมันเสีย ในฐานที่มันทรยศต่อพระเจ้าแผ่นดิน” พอทหารนำเจ้าหญิงกวานยินออกไปจากหน้าพระที่นั่ง พระราชาผู้มีเกศาหงอกขาวดุจดอกเลา ก็ทรงเซซวนพลัดตกจากเก้าอี้ถึงซึ่งวิสัญญีภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น