ชีวประวัติเจ้าแม่กวนอิม(5)
วันหนึ่งขณะที่เจ้าหญิงกวานยินผู้บากกำลังหาฟืนอยู่ในลำเนาไพร พระนางทรงได้ยินเสียงพยัคฆ์ไต่เต้ามาในสุมทุมไม้ พระนางไม่มีศัสตราวุธใดๆที่จะทรงใช้สำหรับคุ้มครองป้องกันพระองค์ จึงได้แต่ทรงนึกภาวนาวิงวอนให้เทพดาฟ้าดินช่วยปกปักรักษาให้พ้นจากสัตวภัยอยู่ในใจ และทรงคอยดูเจ้าสัตว์ร้ายที่กำลังไต่เต้ามาด้วยอาการอันสงบ น่ามหัศจรรย์ เมื่อสัตว์กระหายโลหิตปรากฏตน แทนที่มันจะกระโดดเข้าตะครุบฉีกพระมังสะของพระนางกินเป็นภักษาหาร มันกลับร้องคำรามเสียงอ่อยๆ มันไม่พยายามที่จะทำอันตรายพระนาง แต่เข้ามาคลุกคลีแสดงกิริยาอาการเป็นมิตร และยอมให้พระนางลูบคลำหัวมันเล่น
ในวันรุ่งขึ้นเจ้าหญิงกวานยินก็เสด็จยังที่นั่นอีก ในวาระนี้พระนางเห็นสัตว์ร้ายมีจำนวนไม่ย่อนกว่า 12 ตัว กำลังระดมกันเก็บฟืนและไม้กราดเพื่อนางโดยแสดงตัวเป็นสหายอันดี เพียงเวลาไม่สู้นานไม้กราดและฟืนก็ถูกนำมาสุมไว้เป็นกองใหญ่พอที่อารามนั้นจะใช้ได้นานราวกึ่งปี นี่แหละแม้แต่สัตว์ดุร้ายแห่งไพรวันก็ยังสามารถพิจารณาเห็นสัมมาปฏิบัติของนางได้ดีกว่าพวกชีเหล่านั้น
อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อพระนางกำลังทรงหาบน้ำขึ้นภูเขาด้วยพระอาการกะปลกกะเปลี้ย ซึ่งนับเป็นเที่ยวที่ 20 พระนางต้องเผชิญกับมังกรอันมหึมาตัวหนึ่ง มังกรเป็นสัตว์ที่ประชาชนชาวจีนนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์ แต่เจ้าหญิงกวานยินจะได้ทรงพรั่นพระทัยแม้แต่น้อยก็หาไม่ เพราะพระนางทรงตระหนักว่า พระนางไม่เคยได้ประพฤติทุศีลและอธรรมเลย
สัตว์ประหลาดนั้นได้เพ่งพระนางสักอึดใจ แล้วมันก็กวัดแกว่งแว้งฟาดหางอันน่าสยดสยองและพ่นไฟออกจากช่องจมูก ในบัดดลหาบน้ำที่อยู่บนอังสาก็ถูกมันดุนพลัดตกกระเด็นลง แล้วมันก็อันตรธานสูญหายไป พระนางทรงหวาดพระทัยที่สุดถึงแก่ทรงวิ่งขึ้นภูเขาไปสู่อารามโดยเร็ว พอใกล้ถึงลานภายในแห่งอาราม พระนางต้องสนเท่ห์ที่ได้ทรงเห็นมีเคหาสน์ก่อด้วยศิลาประดิษฐานอยู่ ณ ท่ามกลางที่ว่างเปล่าเพิ่มขึ้น อีกหลังหนึ่ง เคหาสน์หลังนี้ประดิษฐานขึ้นเสร็จแล้วด้วยเดชะอำนาจแห่งเวทมนตร์ตั้งแต่เมื่อพระนางลงจากภูเขาครั้งหลัง ครั้นพระนางทรงดำเนินต่อไปก็ทรงประจักษ์แก่พระเนตรว่าเคหาสน์เทพนิรมิตนี้มีช่องประตู 4 ช่อง เบื้องบนแห่งประตูด้านประจิมทิศมีแผ่นศิลาซึ่งมีตัวอักษรจารึกอยู่บนว่า เพื่อเป็นเกียรติยศแก่กวานยิน เจ้าหญิงผู้ซื่อสัตย์สุจริต ภายในเคหาสน์ยังมีบ่อซึ่งขังน้ำอันใสสะอาดและมีเครื่องกลไกอันประหลาดสำหรับตักน้ำขึ้นจากก้นบ่ออีก กลไกนี้ทั้งเจ้าหญิงกวานยินและปวงนางชีจะได้เคยประสพพบเห็นก็หาไม่
พวกนางชีตระหนักว่าบ่อนิรมิตนี้เป็นอนุสาวรีย์แห่งศีลธรรมอันดีงามของเจ้าหญิงกวานยิน ต่อมาอีกไม่กี่วันการประพฤติปฏิบัติต่อพระนางของเหล่านางชีก็ค่อยดีขึ้นกว่าเดิม เขากล่าวว่า เนื่องจากเทพดาได้ทรงขุดย่อน้ำไว้ภายในอาราม จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้หญิงอนาถาผู้นี้ไปตักน้ำจากตีนผาอีก แต่อย่างไรก็ดี น่าประหลาดนักว่า ใช่เทพดาจารึกนามของแม่ยาจกคนนี้ไว้บนแผ่นศิลาไหมหนอ
เจ้าหญิงกวานยินทรงยินคำสนทนากระซิบกระซาบอันไร้ความเมตตาปรานีของนางชี แน่อน พระนางอาจจะแถลงความหมายแห่งรางวัลที่มังกรเป็นผู้กำนัลได้ แต่พระนางไม่ทรงปรารถนา เพราะทรงสำนึกว่าสู้ปล่อยให้สหายนางชีคงแบกเอาความเขลาไว้ตามเคยไม่ได้ ในที่สุดพวกนางชีผู้มีใจอำมหิตก็เริ่มประพฤติต่อพระนางด้วยอาการอันโหดร้ายอีก และยังซ้ำรุนแรงยิ่งกว่าเดิม เขาไม่พึงปรารถนาจะเห็นพระนางมีเวลาสำราญหฤทัยแม้แต่เพียงอึดใจเดียว
เขาบงการแด่พระนางว่า “นี่แน่ เป็นงานสำหรับเจ้า เราทุกคนต้องทำการงานอาบเหงื่อต่างน้ำเพื่อประทังชีพและผดุงฐานะของเรา ฉะนั้นเจ้าก็ต้องทำดุจเรา” โอกาสที่พระนางจะได้ทรงศึกษาและสวดมนต์ภาวนาก็ต้องถูกเขายื้อแย่งเอาไปเสียจนสิ้นเชิง ทั้งเขาไม่ไว้เนื้อเชื่อใจที่จะยินยอมให้พระนางไปข้องแวะกับบ่อนนฤมิตนั้นด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น