วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประวัติความเป็นมาของมหากรุณาธารณีสูตร


ประวัติความเป็นมาของมหากรุณาธารณีสูตร


มหากรุณาธารณีสูตร มีแหล่งความเป็นมาหลากหลาย ตามนิกายคติความเชื่อความนับถือของศาสนิกชนชาวพุทธมหายาน ที่นำมาเสนอต่อไปนี้คือประวัติความเป็นมาของมหากรุณาธารณีสูตรจากแหล่งข้อมูลหนึ่งที่เดิมเป็นภาษาอังกฤษและข้าพเจ้าได้แปลเป็นภาษาไทยดังต่อไปนี้:

ข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้:


สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่พระเชตวันนครสวัตถี อันเป็นสวนของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี  พร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่จำนวน 1250 รูปและหมู่พระมหาโพธิสัตว์จำนวน 40,000  องค์ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีเหล่าทวยเทพมากหลายซึ่งมีจำนวนถึง 84,000 องค์พร้อมด้วยบุตรและญาติๆของทวยเทพต่างก็ได้มาอยู่ในที่ชุมนุมนี้ด้วย  ทวยเทพเหล่านี้ได้แก่  ท้าวมหาพรหมเจ้าแห่งพรหมโลก พระราชาแห่งมนุษยโลก(สหโลก)  ท้าวสักกะเทวราช ผู้เป็นเวราชาแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 คือ ท้าว ธตรฐ  ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักข์ ท้าวกุเวร รวมทั้งขุนพลยักษ์ผู้ใหญ่จำนวน 28 ตน  เป็นต้น

ในครั้งนั้นพุทธกาลได้ผ่านพ้นไปได้หลายแสนโกฏิปี ที่โลกแห่งหนึ่งนามว่า นานาบุษปโลก  เป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าพระนามว่า พระอมิตาภะตถาคต  พระองค์เป็นพระอรหันต์ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระองค์ได้แสดงงธรรมต่างๆในสมัยนั้น พระองค์ได้ตรัสเรียกให้พระโพธิสัตว์ 2 องค์ คือ พระโพธิสัตว์นามว่า มหาภะ และพระโพธิสัตว์นามว่า อมิตาภะให้มาเฝ้า แล้วตรัสว่า

ดูก่อนท่านผู้เจริญ ท่านทั้งสองพึงไปสู่มนุษยโลก(สหโลก)แล้วแสดงธรณีนี้แก่พระศากยะมุนี ธารณีนี้มีประโยชน์มาก  ให้ประโยชน์และความสุขแก่สรรพสัตว์ในสังสารวัฏชั่วกาลนาน กับทั้งจะเอื้อประโยชน์ทางคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ทั้งทางด้านพละกำลังร่างกายและทางด้านเกียรติยศแก่สรรพสัตว์เหล่านั้น

 จากนั้นพระพุทธเจ้าได้ตรัสต่อไปว่า :

 ตะทะยะตะ  โปโรสุลิ  สุลิ  ลิสะ โมทิ  มะหา-โสโมทิ  โสมันทิ  มะหา-โสมันทิ  โสลิ โสโลลิ  สวาหะ


พระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้นเมื่อรับธรณีนี้จากพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นแล้ว และเพื่อให้ธรณีนี้เกิดประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ตามความประสงค์ของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นนั้น จึงได้ออกจากพุทธโลกอันมีนามว่านานาบุปผพุทธโลกนั้น มุ่งตรงมายังสวนพระเชตวันของท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐี

พระโพธิสัตว์ทั้งสององค์ได้เข้าไปเฝ้าพระศากยมุนีพุทธเจ้ายังที่ประทับ ได้น้อมกายถวายอภิวาท ณ ที่เบื้องบาทของพระองค์ เสร็จแล้วถอยมายืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลพระพุทธองค์ว่า:

ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อกาลแห่งพระพุทธเจ้าล่วงมาแล้วแสนโกฏิปี มีโลกแห่งหนึ่งนามว่านานาบุษปะพุทธโลก  พระพุทธเจ้าแห่งโลกนี้มีพระนามว่าพระอมิตาภะตถาคต  พระองค์เป็นพระอรหันต์ เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ตรัสธรณีนี้  และพระองค์ได้ส่งข้าพระองค์ทั้งสองมาที่ที่เพื่อกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า  พระองค์มีพระโรคาอาพาธน้อยหรือไม่  พระองค์มีความปริวิตกน้อยหรือไม่  พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรงดีหรือไม่  พระสาวกของพระองค์ถูกรบกวนโดยพวกมาร พวกเทวดา พวกผี  พวกรากษส  พวกภูต  พวกกุมภัณฑ์ พวกปีศาจ  พวกเปรต พวกอสูร พวกครุฑ  พวกเปรตผู้หิวโหย พวกคนธรรพ์  พวกผีแพร่เชื้อโคในวันเดียว พวกผีที่แพร่เชื้อโชคในสองวัน พวกผีที่แพร่เชื้อโชคในสามวัน พวกผีที่แพร่เชื้อโชคในสี่วัน หรือพวกผีที่แพร่เชื้อโชคในเจ็ดวัน พวกผีที่แพร่เชื้อโรคอยู่บ่อยๆ เป็นต้น หรือไม่

พระอมิตาภะคตาคตได้ส่งข้าพระองค์ทั้งสองให้นำธารณีนี้มาทูลถวายแด่พระองค์  เพื่อจะทำให้สรรพสัตว์ของมนุษยโลก(สหโลก)มีความสงบสุขในสังสารวัฏชั่วกาลนาน และเพื่อเป็นประโยชน์เกื้อกูลทางคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ทั้งทางด้านพละกำลังทางร่างกายและเกียรติยศแก่พวกเขา

จากนั้นพระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น ก็ได้กราบทูลธารณีตามที่กล่าวข้างต้นนั้น

ในขณะนั้น พระศากยมุนีพุทธเจ้า ได้ตรัสกะพระอานนท์ว่า เธอจงรับและทรงจำธารณีนี้ไว้เถิด  จงท่องบ่นภาวนาให้ขึ้นใจ แล้วจงไปอธิบายธรณีนี้แก่ผู้อื่น จงเขียน และจงบูชาธรณีนี้  เพราะเหตุไร? เพราะการมาปรากฏของพระพุทธเจ้าในโลกนี้เป็นการยาก แต่การที่จะได้มีโอกาสได้ทรงจำธรณีนี้ยิ่งยากยิ่งขึ้น ดูก่อนอานนท์ หากผู้ใดทรงจำก็ดี อ่านก็ดี  ท่องบ่นธารณีนี้ให้ขึ้นใจก็ดี ผู้นั้นจะประสบความสวัสดีและได้อานิสงส์มากหลาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หนังสือชีวประวัติและพระคาถาเจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์

มีจำหน่ายที่สายส่งดวงแก้ว ราคาเล่มละ ๑๐ บาท ติดต่อคุณหนึ่ง ที่เบอร์โทร ๐๒-๘๖๔-๐๔๓๔ และ ๐๒-๘๖๔-๐๔๓๕